และเมื่อดูการให้คะแนนของกรรมการ จะพบดังนี้
ประธานการตัดสิน

ประธานการตัดสิน
ได้ให้คะแนน ตามเกณฑ์ข้อ 1-5 ให้เท่ากันทุกข้อ
ทั้งๆ ที่ท่านยืนยันว่าดูหนังเป็น ตัดสินหนังมานักต่อนัก มีความรู้เรื่องหนัง 100% แต่ท่านไม่ได้แสดงให้เห็นเลยแม้แต่น้อยว่า
ท่านมีความสามารถ หรือมีความจัดเจนอย่างที่กล่าวอ้าง เพราะการให้คะแนนประเด็นของภาพยนตร์ให้คะแนนเท่ากันทุกข้อ
ทั้งๆ ที่
ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง คุณภาพไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย
แต่สุดท้าย ท่านกลับไปตัดสินเอาแพ้ชนะกันที่การนำเสนอ 1 คะแนน
(นี่คือคะแนนของประธานตัดสิน ผู้ที่บอกว่าดูหนังเป็น)
กรรมการท่านที่ 2 (ดูการให้คะแนน)

ท่านให้คะแนนรวมสองเรื่องเท่ากัน ท่านบอกว่าไร้อคติใดๆ ดูหนังมาทั้งชีวิต
ใช้หนังสั้นสอนเด็กมาตลอด
และ
ปีนี้ท่านก็ส่งหนังสั้นโรงเรียนของท่านในระดับ ม.ต้น
และได้เป็นตัวแทนของจังหวัดด้วย (มีส่งอยู่ทีมเดียว)
ก็ได้แต่เอาใจช่วยและรอลุ้นให้ท่านผ่านเข้าไประดับชาติ เอารางวัล มาเป็นเกียรติ
เชิดชูแก่จังหวัดฉะเชิงเทราให้ได้
แต่เท่าที่ดูผล หนังที่ท่านเป็นที่ปรึกษา ได้รางวัลเหรียญเงิน ลำดับที่ 20 (ไปไม่ถึงดวงดาว) ดูรายละเอียด
ในหัวข้อ แก่นเรื่อง ท่านให้ภาพยนตร์เรื่องที่ 1 ชนะ ทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนใดจะสามารถตอบโจทย์ได้เลย
หนังไม่ได้แสดงให้เห็นว่า ความสามัคคีในเรื่องนั้น สามารถช่วยให้สังคมดีได้อย่างไร
แต่ท่านกลับให้คะแนนชนะ
ในหัวข้อความสมบูรณ์และการทำหน้าที่ภาพยนตร์
กรรมการท่านนี้บอกว่าดูหนังเรื่องที่ได้ที่ 2 แล้วกดดัน เครียด ท่านกลับไม่เข้าใจว่า
หนังมันทำหน้าที่ของมันได้ สามารถเร้าอารมณ์ให้คนดูรู้สึกได้
ซึ่งภาพยนตร์จะต้องทำหน้าที่ได้ เช่น
1. หน้าที่ในการเล่าเรื่อง คือ เล่าตามลำดับเวลา หรือไม่ลำดับเวลา
2. หน้าที่ในการสร้างอารมณ์ เช่น สุข เศร้า ปิติ ตื่นเต้น
3. หน้าที่ในทางปัญญา ขบคิด ตั้งคำถาม ต่างๆ
4. หน้าที่ในการสร้างความตื่นตาตื่นใจ เช่น ภาพสวย อลังการ ฯลฯ
กรรมการท่านนี้กลับบอกว่า เป็นหนังที่ไม่ดี ทั้งๆ ที่หนังอีกเรื่องทำหน้าที่ได้น้อยมาก
ท่านจึงให้คะแนนภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องเท่ากัน
ในหัวข้อระบบเสียง ระบบภาพ.. ถ้าคนตาไม่บอด หูไม่หนวก ก็จะเห็นและได้ยินเสียงได้
(ยกเว้นจะเป็นคนใจมืดบอด)
เพราะหนังเรื่องที่ชนะ คุณภาพเสียงใช้ไม่ได้ ทั้งเบามากในบางช่วง
จนจับประเด็นไม่ได้ว่ากำลังพูดอะไร
และยังมีเสียงรบกวนเยอะมาก ส่วนภาพ มุมกล้องใครๆ
ดูก็บอกได้ว่า เป็นได้แค่หนังฝึกหัดเท่านั้น
แต่ข้อนี้ท่านกลับให้คะแนน 12 คะแนน เท่ากัน
กรรมการท่านที่ 3 (ดูการให้คะแนน)

เป็นกรรมการที่ เห็นการให้คะแนนแล้วน่าเศร้ามาก ไม่น่าจะให้เป็นกรรมการได้
เพราะท่าน ไม่มีเกณฑ์ในการกำหนดช่วงให้คะแนน (ในทางสถิติ คะแนนแบบนี้จะถูกตัดทิ้ง)
เพราะเป็นคะแนนที่สูงโด่งหรือเป็นคะแนนที่ถูกกดต่ำ
ดังจะพบการให้คะแนนในหัวข้อ การนำเสนอผลงาน
ท่านได้ให้คะแนนโด่ง และกดคะแนนต่ำ
ทั้งๆ ที่น้ำหนักคะแนนแค่ 15 คะแนน แต่ท่านให้คะแนนห่างกัน 4 คะแนน
ในขณะที่ 5 ข้อแรก คะแนนแต่ละข้อมีมาก รวมแล้ว 85 คะแนน
และถึงแม้ว่าคุณภาพของภาพยนตร์จะแตกต่างกันมากมายขนาดไหนก็ตาม
ท่านก็จะให้คะแนนต่างกันแค่ 1 หรือ 2 คะแนนเท่านั้น การให้คะแนนข้อสุดท้ายห่างกันมาก จึงเป็นสิ่งผิดปกติ
ที่ต้องตั้งข้อสังเกตว่า มีแรงจูงใจหรือเพราะเหตุใด ที่ท่าน
จงใจใช้การให้คะแนนโด่งและกดคะแนนต่ำอย่างไม่เป็นธรรม
เพื่อให้ได้ผลแพ้ ชนะ
เราก็ได้แต่หวังว่า ภาพยนตร์ที่กรรมการเลือกไปนั้น จะเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัด
สามารถได้เข้าชิงชัยในระดับชาติ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับ สพม.6 ต่อไป
ล่าสุด..ผลการแข่งขันออกมาแล้ว.. คือ ได้เหรียญเงิน ลำดับคะแนน โรงเรียนที่ 35 ดูรายละเอียด (ไม่ผ่านการคัดเลือกระดับภาค)
|